ไทยกะเลิง | ||||
คำว่า กะเลิง มาจากคำว่า ข่าเลิง หมายถึง ข่าพวกหนึ่งในตระกูลมอญเขมร ข่า กะโซ่และกะเลิง อยู่ในตระกูลเดียวกัน ภาษาพูดอยู่ในตระกูล ออสโตรอาเซียติค ถิ่นกำเนิดของชาวกะเลิงอยู่ในแขวงคำม่วน และแขวงสุวรรณเขต ของลาว อพยพข้ามโขงมาอยู่ทางฝั่งขวาแม่น้ำโขงในสมัยรัชกาลที่ 3 หลังจากการปราบกบฏเจ้าอนุวงษ์เวียงจันทน์แล้ว ส่วนใหญ่จะอยู่ในท้องที่จังหวัดสกลนคร นครพนม และ | ||||
| ||||
โลกมนุษย์โดยอ้างว่า “......ข้อยนี้ก็อยู่เมืองบนก็บ่แก่น แล่นเมืองฟ้าก็บ่เป็น.....” พญาแถนจึงให้ลงมาเกิดที่เมืองมนุษย์ที่ เมืองแถน หรือ เมืองน้ำน้อย อ้อยหนู ซึ่งอยู่ในแค้วนสิบสองจุไทย พร้อมกับได้ส่งควายให้ลงมาเกิดในเมืองแถนด้วย เพื่อจะได้ใช้ทำไร่ไถนาหาเลี้ยงชีพต่อมาควายได้ตาย ซากของควายเกิดเป็น น้ำเต้าปุง ต่อมาในน้ำเต้าปุงได้เกิดเป็นมนุษย์ขึ้นหลายเผ่าพันธุ์ มนุษย์เหล่านั้นร่ำร้องอยากออกมาสู่โลกมนุษย์ ขุนทั้งสามจังเอาเหล็กซี(เหล็กปลายแหลมเผาไฟ) เจาะรูน้ำเต้าปุง เพื่อให้มนุษย์เล่านั้นออกมามนุษย์พวกแรกที่ออกมาคือ พวกข่า กะโซ่ กะเลิง แต่เนื่องจากเหล็กซีที่เผาไฟเจาะรูน้ำเต้าปุง เต็มไปด้วยคราบเขม่าไฟสีดำ พวกข่า กะโซ่ กะเลิง ที่ออกมาจากน้ำเต้าปุงก่อนเผ่าอื่น ๆ จึงมีผิวดำคล้ำมอมแมมต่อมาถึงลูกหลานทุกวันนี้ แต่ยังมีเผ่าอื่น ๆ ที่ยังเหลืออยู่ในน้ำเต้าปุงอีกมาก ขุนทั้งสามจึงใช้สิ่วเจาะรูน้ำเต้าปุงให้กว้างยิ่งขึ้น เผ่าอื่น ๆ รุ่นหลังที่ออกมา เช่น ไทยเลิง ไทยลอ ไทยกวางฯลฯ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของไทย ลาว ผู้ไทย ที่ออกมารุ่นหลังนี้ได้รีบไปอาบน้ำชำระร่างกาย ในหนองน้ำศักดิ์สิทธิ์จึงมีผิวกายขาวผ่องยกเว้น พวก ข่า กะโซ่ และกะเลิง ซึ่งออกมารุ่นแรกจากน้ำเต้าปุงที่เจาะด้วยเหล็กซีเผาไฟ จึงมีคราบเขม่าไฟติดตามร่างกายและกลัวความหนาวเย็นไม่ยอมไปอาบน้ำชำระร่างกาย จึงมีผิวดำคล้ำแทบทุกคนถึงอย่างไร ก็ตามพวกข่า กะโซ่ และกะเลิง ก็ออกมาจากน้ำเต้าปุงก่อนเผ่าอื่น ๆ จึงถือว่าเป็นพี่ใหญ่(อ้ายกก) ย่อมมีสติปัญญาเหนือกว่าเผ่าอื่น ๆ ตามตำนานยังเล่าว่าพวกข่า กะโซ่ และกะเลิง เคยมีตัวหนังสือมาตั้งแต่อดีต โดยจารึกตัวหนังสือไว้ในหนังควาย แต่ว่าพวกข่า กะโซ่ และกะเลิงได้ทำสงครามแย่งชิงถิ่นที่อยู่กับชาวผู้ไทยมาตลอดจนแม่ทัพนายกองสิ้นชีวิตไปหลายคน ในระหว่างทำสงคราม ได้ถูกสุนัขลักลอบเข้าไป ในวังของกษัตริย์ แล้วคาบเอาหนังควายที่จารึกอักษรข่า กะโซ่ และ กะเลิงไปกินเป็นอาหารเสียสิ้น พวกข่า กะโซ่ และกะเลิงจึงไม่มีหนังสือขีดเขียนเป็นอักษรของตนอีก วิถีชีวิตและอุปนิสัย ชาวกะลิง ความเป็นอยู่และอุปนิสัยคล้าย ชาวไทย ข่า คือมีความมุ่งมั่น ขยันขันแข็ง มีความรักและจริงใจต่อ เพื่อน |
วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
ชาวไทยกะเลิง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น