สะพานมิตรภาพ 2



   


          สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2

               มุกดาหาร - สะหวันนะเขต


  ตั้งอยู่ที่บ้านสงเปือย ตำบลบางไทรใหญ่ ห่างจากตัวจังหวัดไปทางทิศเหนือ 7 กิโลเมตร โดยข้ามไปลงที่ บ้านนาแก เมืองคันทะบูลี ซึ่งอยู่ห่างจากตัวแขวงสะหวันนะเขตไปทางทิศเหนือประมาณ 5 กิโลเมตร เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2549 โดยรูปแบบสะพานเป็นสะพานคอนกรีต 2 ช่องจราจร ผิวจราจรกว้าง 8 เมตร ไหล่ทางข้างละ 1.5 เมตร ความยาวสะพานทั้งสิ้น 2,702 เมตร สะพนมิตรภาพฯ แห่งที่ 2 นี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเส้นทางขนส่ง เชื่อมโยงจากตะวันออกคือเมืองดานัง (เวียดนาม) ข้ามแม่น้ำโขงที่แขวงสะหวันนะเขต ต่อมายังมุกดาหาร และผ่านไปยังตะวันตกที่ชายแดนไทย-พม่า ที่อำเภอแม่สอด และเมืองเมียวดี และไปสิ้นสุดที่ เมืองมะละแหม่งของพม่า
       ในการเดินทางข้ามสะพานฯ จะต้องใช้บริการรถโดยสารประจำทางระหว่างประเทศเท่านั้น โดยค่าโดยสารท่านละ 45 บาท โดยฝั่งไทยจะไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมเหยียบแผ่นดิน ส่วน สปป.ลาว มีการจัดเก็บดังนี้ หนังสือเดินทาง (Passport) วันธรรมดา 20 บาท วันหยุด 40 บาท หนังสือผ่านแดน (Borderpass และ Temporary Borderpass) วันธรรมดา 50 บาท วันหยุด 100 บาท โดยมีจุดจอดรถโดยสารบริเวณเชิงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2


การเลือกวิธีการเดินทาง
1. การเดินทางด้วยรถยนต์โดยสารประจำทางระหว่างประเทศ
ซื้อตั๋วและขึ้นรถได้ที่สถานีรับ-ส่งผู้โดยสารของ บริษัท ขนส่ง จำกัด จังหวัดมุกดาหาร หรือจุดจำหน่ายตั๋วบริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพขาออก
  • ต้องแสดงหนังสือเดินทาง (Passport) หรือหนังสือผ่านแดน (Border Pass) หนังสือผ่านแดนชั่วคราว (Temporary Border Pass)
  • มีรถโดยสารบริการไปกลับวันละ 16 เที่ยว ระหว่าง 08.00-17.00 น.
  • ผู้โดยสารทุกคนต้องลงรถที่ด่านจุดตรวจพรมแดนสะพานฯ พร้อมนำสัมภาระติดตัวลงรถ เพื่อตรวจเอกสารการเดินทางตามพิธีการตรวจคนเข้าเมืองด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพฯ ตู้ตรวจที่ 1,2,3 และผ่านพิธีการศุลการกรเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสิ่งของสัมภาระ แล้วจึงขึ้นรถเดินทางต่อไปได้
  • ปลายทางคือ สถานีขนส่งผู้โดยสารแขวงสะหวันนะเขต ระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตร ซึ่งสามารถขึ้นรถโดยวารต่อไปยังนครหลวงเวียงจันทร์ แขวงสาละวัน แขวงคำม่วน แขวงจำปาสัก สปป.ลาว และเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม
2. การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล
          2.1 เจ้าของรถต้องจัดทำหนังสือขออนุญาตระหว่งประเทศ (Passport รถยนต์) ตามข้อตกลงประเทศไทย-สปป.ลาว ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดที่รถยนต์คันนั้นจดทะเบียน หรือที่สำนักงานขนส่งจังหวัดมุกดาหารและติดเครื่องหมายแสดงประเทศไว้ที่รถ
          2.2 เจ้าของรถต้องแจ้งผ่านพิธีศุลกากรที่ด่านศุลการกรมุกดาหาร (จุดตรวจสะพานฯ)
          2.3 เจ้าของรถต้องแจ้งผ่านพิธีเข้า-ออกเมืองที่ด้าน ตม. มุกดาหาร (จุดตรวจสะพานฯ) หากมิใช่เจ้าของรถผู้ขับขี่ต้องมีหนังสือมอบอำนาจให้นำรถออกนอกประเทศไทยได้
          2.4 ผู้ขับขี่ต้องมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ของประเทศคู่ภาคี (ไทย-ลาว) และฉบับที่เป็นภาษาอังกฤษ ติดต่อขอทำได้ที่สำนักงานขนส่งที่มีภูมิลำเนา (ฉบับแปลขอทำได้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดมุกดาหาร) ติดตัวให้ตรวจสอบได้
          2.5 ผู้ขับขี่และผุ้โดยสารทุกคนที่มาด้วยกันทุกคน ต้องมีหนังสือเดินทาง (Passport) หรือหนังสือผ่านแดน (Border Pass) หรือหนังสือผ่านแดนชั่วคราว (Tempory Border Pass)
          2.6 ข้อควรระวังสำหรับบุคคล หากถือหนังสือเดินทาง สามารถเดินทางไปได้ทั่วทั้งแขวงสะหวันนะเขต และเดินทางต่อไปยังแขวงต่างๆ ตลอดจน สส. เวียดนามได้ แต่หากถือหนังสือผ่านแดน เดินทางไปได้ไม่เกินเมืองพิณ ห้ามเข้าเขตเมืองเซโปน เมืองณอง และเมืองวีระบุรี หากเดินทางท่องเที่ยวใลกษณะกลุ่มทัวร์ ต้องติดต่อขอรับอนุญาตผ่านบริษัทการท่องเที่ยวในแขวงสะหวันนะเขต ตามข้อบังคับของ สปป.ลาว
          2.7 ผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกคนต้องลงรถที่จุดด่านพรมแดนสะพานฯ เพื่อตรวจเอกสารกมารเดินทาง พร้อมกับตรวจสัมภาระต่างๆ เป็นรายบุคคลตามพิธีตรวจคนเข้าเมือง และพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการศุลกากรที่ด่าน ตม. มุกดาหาร และด่านศุลกากรมุกดาหาร ตามข้อ 2.2 และ 2.3 จะเสร็จสิ้น ณจุดเดียว คือตู้หมายเลข 4,5,6
ระยะเวลาการอนุญาตให้พำนักใน สปป.ลาว
บุคคลที่มีสัญชาติไทย หากถือหนังสือผ่านแดนชั่วคราว (Temporary Border Pass) หรือ หนังสือผ่านแดน (Border Pass) พำนักอยู่ในแขวงสะหวันนะเขต ได้ครั้งละไม่เกิน 3 วัน ( 2 คืน) โดยต้องแจ้งขอพักค้างคืนต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองแขวงสะหวันนะเขตด้วยทุกครั้ง หากถือหนังสือเดินทาง (Passport) พำนักอยู่ในพื้นที่ สปป.ลาว ได้ครั้งละไม่เกิน 30 วัน


         สะพานมิตรภาพ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) (อังกฤษ: Second Thai–Lao Friendship Bridge ) เป็นสะพานที่เชื่อมต่อจังหวัดมุกดาหารของประเทศไทยเข้ากับแขวงสะหวันนะเขดในประเทศลาว เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเศรษฐกิจตะวันตกตะวันออก ซึ่งเริ่มจากพม่า ผ่าน ไทย ลาวและสิ้นสุดที่เวียดนาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขงของธนาคารการพัฒนาแห่งเอเชีย ซึ่งมีความยาวทั้งหมด 1600 เมตร มีความกว้าง 12 เมตร และมีช่องการจราจร 2 ช่อง มูลค่าการก่อสร้างประมาณ 70 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยแหล่งทุนในการก่อสร้างเป็นเงินกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำจากรัฐบาลญี่ปุ่นให้กับรัฐบาลลาว 4011 ล้านเยน และให้กับรัฐบาลไทย 4079 ล้านเยน ใช้เวลาก่อสร้างตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2546 ถึง เดือนธันวาคม พ.ศ. 2549   
           ตัวสะพานเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2547 ระหว่างการก่อสร้างได้เกิดอุบัติเหตุจากเครื่องเครน ที่ทำให้ ที่ปรึกษา วิศวกรและคนงานเสียชีวิต 9 คน (ชาวไทย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และลาว) บาดเจ็บ 10 คน (ชาวไทย ญี่ปุ่น และลาว) และหายสาบสูญ 1 คน (ชาวลาว) เมื่อ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 และสะพานเปิดให้สาธารณะใช้เมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2550 ในระหว่างการขับรถมายังฝั่งไทย คนขับรถมาจากฝั่งลาวต้องเปลี่ยนฝั่งการขับ เนื่องจากประเทศลาวขับรถทางขวามือ ส่วนประเทศไทยขับรถทางซ้ายมือ ดังนั้นคนไทยเองจึงต้องเปลี่ยนฝั่งการขับรถไปเป็นทางขวาเมื่อเข้าประเทศลาวด้วยเช่นเดียวกัน


                 >>รูปภาพ<<